
10 ข้อที่ควรดู – 50/50 ไม่ตายก็รอด
- Marilyn
- 0
- Posted on
50/50 ไม่ตายก็รอด
ประเภท Comedy | Drama
คะแนน (IMDB) – 7.8/10
นักแสดง
Joseph Gordon-Levitt
Seth Rogen
Anna Kendrick.
เริ่มกันเลยยยย
1. ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ สอนให้คนทำทุกวันให้มีความหมายจริงๆ
2. หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นมิตรภาพของเพื่อนจริงๆ เล่นเอาน้ำตาซึม
3. หนังเรื่องนี้พอตเรื่องอาจจะไม่มีอะไรมากมายแต่มันมีอะไรแฝงอยู่มากมายจริง ๆ
4. นักแสดงหลักๆ ใช้กันแค่ 3 คนเป็นส่วนใหญ่แต่ว่าแต่ละคนแสดงได้ถึงรสชาติจริง ๆ
5. หนังเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าพ่อแม่รักเราเสมอจะอยู่ข้างเราตลอดไปไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม
6. หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ตอกหน้าผู้หญิงหลายใจได้ดีสุดๆ ดีสุดที่ผมเคยดูมาเลย
7. หนังเรื่องนี้จะทำให้คุณอยากมีเพื่อนแท้ ๆ ดูหนังออนไลน์ฟรี แบบนี้สักคนจริงๆ ดูแล้วเพื่อนแบบนี้คงหาได้ยากในสังคมของเรา
8. หนังเรื่องนี้จะทำให้คุณรู้จักดาราที่มากความสามารถที่สุดที่เคยเจอทั้งสวยน่ารักยิ้มหวานจริงๆอย่าง Anna Kendrick.
9. หนังเรื่องนี้จะบอกคุณว่าความตายนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คนไม่ว่าจะตอนไหนเมื่อไหร่เราก็ต้องตาย
10. หนังเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่าคนชอบพูดปลอบใจทั้งๆ ที่มันก็รู้อยู้ว่าผลเป็นยังไงไม่ช้าก็เร็วทำไมถึงไม่บอกความจริง
ฟิฟตี้ ฟิฟตี้ เป็นอีก 1 ผลงานของนักแสดงที่มากฝีมือ และกำลังถูกจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ โจเซฟ กอร์ดอน เลวิท ซึ่งก่อนหน้าหนังเรื่องนี้ เค้าได้รับบทในภาพยนตร์ที่สร้างปรากฏการณ์อย่าง Inception หรือแม้กระทั่งหนังโรแมนติดสุดฮิต ซึ่งใครได้ชมก็หลงรักอย่าง (500) Days of Summer บทตัวร้ายในเรื่อง GI Joe : The Rise of Cobra และล่าสุดเค้ายังได้รับบทบาทสำคัญในหนังปิดฉากไตรภาค ของคริสโตเฟอร์โนแลน อย่าง The Dark Knight Rises ซึ่งต้องบอกว่าเค้าได้รับบทที่สำคัญมากจริงๆ และฟิฟตี้ ฟิฟตี้ ก็เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่กวาดเสียงวิจารณ์ในด้านบวกทั่วโลก และได้รับการยอมรับมากมาย
คำเตือน อาจมีการเปิดเผยส่วนสำคัญของเนื้อหา และ อาจจะทำให้เสียอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ !!
ฟิฟตี้ ฟิฟตี้ ว่าด้วยเรื่องราวของ อดัม (โจเซฟ กอร์ดอน เลวิท) ชายหนุ่มผู้มีชีวิตเพียบพร้อม เขามี เรเชล (ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด) แฟนสาวที่เขารัก และดีกับเขามากๆ มีเพื่อนสุดห้าม แต่ก็ซี้กันมากอย่าง ไคล์ (เซธ โรแกน) ดูเหมือนชีวิตของอดัม จะราบรื่น และใช้ชีวิตไปได้เรื่อยๆอย่างมีความสุขแต่อยู่มาวันนึง อดัม มีอาการปวดหลังจึงไปหาหมอ และ พบว่าเค้าเป็นมะเร็งที่ไขสันหลัง แม้ว่าเค้าจะเป็นคนรักษาสุขภาพแค่ไหนก็ตาม แต่ในเคสของเค้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยากมาก แต่มันเกิดขึ้นกับเค้า ระหว่างการรักษาตามกระบวนการของผู้เป็นโรคมะเร็ง มีการรักษาด้านการบำบัดจิตใจ ทำให้อดัม พบกับ เคธี่ (แอนนา เคนดริก) จิตแพทย์ที่มารักษาจิตใจอดัมทุกสิ่งทุกอย่างที่อดัมเจอจะทำให้เค้ามองเห็นใน สิ่งที่เค้าไม่เคยมองเห็น และแม้ร่างกายจะอ่อนแอลง จะเจอคนรักหักหลัง หรือจะเจออะไรก็ตาม มันทำให้อดัมมีความสุข และ พบความหมายของชีวิตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
50/50 เป็นอีก 1 ผลงานที่มาย้ำผมอีกครั้ง ว่า โจเซฟ กอร์ดอน เลวิท เป็นดารา คุณภาพอย่างแท้จริง นักแสดงคนอื่นๆ ก็เล่นได้ดี โดยรวมแล้วผมค่อนข้างชอบมากๆ แล้วเมื่อดูจบผมรีบกลับมามองตัวเองว่า อดัม รักษาสุขภาพขนาดนั้น รักความสะอาดขนาดนั้น เรื่องแบบนี้ยังเกิดขึ้นกับเค้าผมค่อนข้างไม่ดูแลตัวเอง เกิดอาการกลัวขึ้นมาทันที และเราจะสามารถทำตัวเองให้แข็งแรงได้แค่ไหน ยังจะยิ้มแบบอดัมได้อยู่ไหม เมื่อต้องเผชิญกับความตาย ที่จะมาถึงในอนาคตอันใกล้
หนังนำเสนอประเด็นมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่เผชิญโรคที่คร่าชีวิตคนไปมากที่สุดนี้ ไม่เพียงแต่ชีวิตของอดัม ยังมีผู้ป่วยคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับอดัม แต่ผมมองว่าประเด็นที่สำคัญกว่า การทำให้ตัวเองแข็งแรง นั้น ก็คือ คนรอบข้างของเราบ้างก็เปลี่ยนแปลง บ้างก็หวาดกลัว ตื่นตระหนก ผมชอบประเด็นที่หนังนำเสนอในเชิงครอบครัว พ่อแม่ และนั่นคือสิ่งที่อดัมไม่เคยมองเห็น
นอกจากนี้ สิ่งที่ผมชอบมากๆคือ แอนนา เคนดริก เธอเล่นได้น่ารักสดใสมากๆ ผมเห็นเธอเล่นมาหลายเรื่องมากๆ และเรื่องนี้ก็ย้ำชัดเจนว่า เธอสวยจริงๆนะ ไม่เพียงแต่ความสวย เธอยังเล่นเป็น จิตแพทย์ อายุน้อย จอมเปิ่นได้น่ารักจริงๆ
โดยรวมแล้ว 50/50 เป็นหนังดีๆอีก 1 เรื่องที่จะมอบความรู้สึก ทั้งบวก และ ลบในเวลาเดียวกัน มันจะทำให้คุณนึกถึงการใช้ชีวิตของตัวเอง นึกถึงคนรอบตัว ในท้ายที่สุด เมื่ออดัม ต้องเข้ารับการผ่าตัด เพราะนั่นเป็นหนทางสุดท้ายที่จะทำให้เค้ารอด ผมรู้สึกดีที่หนังพาผมไปพบกับบทสรุปที่ทำให้ผมยิ้มออก (เขินด้วยซ้ำกับตอนจบ) เพราะในตอนแรกคาดไว้ ว่ามันคงทำให้ผมบ่อน้ำตาแตกผมคิดว่าเราเอง ก็ควรจะฝึกรับมือ เตรียมใจให้พร้อม ไม่เพียงแต่การเผชิญกับความตาย แต่การเผชิญกับเรื่องร้ายๆบางเรื่อง มันรุนแรงเสียยิ่งกว่า โรคมะเร็ง และอยากให้มองย้อนกลับไปถึงพ่อถึงแม่ ไม่ว่าท่านจะเป็นยังไง เราก็เปลี่ยนท่านไม่ได้ สิ่งที่เราต้องเปลี่ยนคือวิธีการรับมือกับท่านต่างหาก