
HIDDEN FIGURES สร้างทีมเงาอัจฉริยะ ณ นาซ่า
- Marilyn
- 0
- Posted on
ในที่สุดก็มาถึงคิว Hidden Figures หนังที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขา “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” เรื่องสุดท้ายที่ได้เข้าฉายในบ้านเรา (ณ เวลานี้ยังไม่มีค่ายไหนซื้อ Fences มาขายที่ไทย) นอกจากสาขา “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” แล้ว Hidden Figures ยังได้เข้าชิงออสการ์อีกสองสาขา ได้แก่ บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม และนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Octavia Spencer)
Hidden Figures เป็นหนังสร้างจากเรื่องจริง (Based on True Events) ของสามสาวผิวสีที่ทำงานใน NASA ได้แก่ Katherine G. Johnson (Taraji P. Henson ผู้เข้าชิงออสการ์จาก The Curious Case of Benjamin Button), Mary Jackson (Janelle Monáe จาก Moonlight), และ Dorothy Vaughan (Octavia Spencer เจ้าของรางวัลออสการ์จาก The Help)
แต่ Space race ระหว่างอเมริกากับรัสเซียไม่ใช่ประเด็นสำคัญของหนังเรื่องนี้ Hidden Figures คล้าย ๆ กับ Moonlight ดูหนังออนไลน์ฟรี ที่เล่าเรื่องเกย์ผิวสีในสังคมเสื่อมโทรม กล่าวคือ Hidden Figures เน้นถ่ายทอดประเด็น Racial and gender discriminations ระหว่างคนผิวขาวกับคนผิวสี ระหว่างเพศหญิงกับเพศชาย แต่เล่าในแบบบันเทิง แมส และฟีลกู้ด ดูชิลกว่า Moonlight
สามตัวเอกต้องเป็นผู้หญิงที่ทำงานใน NASA ณ ตอนนั้น นั่นก็ว่า “อยู่ยาก” แล้ว ยิ่งเป็นสาวผิวสีด้วยแล้วนั้น ยิ่ง “อยู่ยากใหญ่” ยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้เห็นภาพ ทั้งห้องน้ำ ห้องครัว หรือแม้กระทั่งกาต้มกาแฟ ยังแปะป้ายแบ่งแยกว่าอันนี้ของคนขาว อันนั้นของคนผิวดำ
- Katherine ต้องไปทำงานเป็นนักคำนวณหรือ Computer (สมัยนั้น Computer ยังเป็นศัพท์แทนคน ยังไม่ใช่เครื่องคอมฯ ที่พวกเรารู้จักกันทุกวันนี้) ในแผนกของบอสใหญ่ Al Harrison (นักแสดงออสการ์ Kevin Costner) ซึ่งทั้งห้องมีแต่ผู้ชายผิวขาว ในส่วนของชีวิตครอบครัว Katherine เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูกสาวสามคน แต่เธอโชคดีที่ได้เจอกับนายทหาร Colonel Jim Johnson (Mahershala Ali ผู้เข้าชิงออสการ์จาก Moonlight)
- Mary ต้องการเป็นวิศวกร แต่กฎ NASA มีอยู่ว่าต้องมีใบปริญญาจากสถาบันนี่นั่นโน่น ซึ่งเป็นสถาบันที่รับแต่นักศึกษา “ชาย” และ “ผิวขาว” เท่านั้น Mary จึงต้องไฟท์หนักมาก เพื่อจะได้เป็นวิศวกรหญิงผิวสี “คนแรก” ของ NASA
- Dorothy จะช่ำชองเรื่องเครื่องจักรเครื่องกล และเป็นเสมือนหัวหน้าของฝ่าย “Colored Computer” แต่สิทธิและค่าจ้างยังต่ำไม่สมแรงกายที่ทุ่มไป เธอพยายามไฟท์กับ Vivian Mitchell (Kirsten Dunst จาก Spider-Man) เรื่องการเลื่อนขั้นของเธอหลายครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งทาง NASA สั่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ของ IBM มา หวังจะใช้คำนวณแทนสมองมนุษย์
สำหรับเราทุกคน เราไม่รู้มาก่อนว่าความสำเร็จของ NASA หลายต่อหลายอย่างมีผู้หญิงผิวสีเหล่านี้อยู่เบื้องหลัง Hidden Figures จึงเป็นเรื่องใหม่ และถือเป็น Untold Story ที่ควรค่าแก่การบอกต่อ ยกย่อง และให้เกียรติอย่างยิ่ง
เพราะถ้าไม่มีบุคคลเหล่านี้ ภารกิจหรือโครงการหลายต่อหลายชิ้น ณ ตอนนั้นของ NASA อาจไม่ประสบความสำเร็จ เช่น ช่วงปี 1960s ที่ NASA กำลังพยายามหาทางทำให้ John Glenn (Glen Powell) ขับยานโคจรรอบโลกได้สำเร็จแข่งกับประเทศรัสเซีย เป็นต้น
ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณบอส Al Harrison ที่เห็นแก่ ความสำเร็จของประเทศชาติและองค์กรมาก่อนประเด็นสีผิว ไม่ถืออคติหรือกีดกันกับ Katherine อย่างที่หัวหน้าวิศวกร Paul Stafford (Jim Parsons จากซีรีส์ The Big Bang Theory) กระทำในตอนแรก
ถึงแม้บอสจะชอบพูดเหมารวมกับลูกน้องทุกคนว่า “Gentlemen” และพูดเหมารวมคู่ครองของลูกน้องว่า “Your wives” แต่เราก็เข้าใจว่านั่นคือความเคยชิน ไม่ได้ตั้งใจข้ามหัว Katherine กับ Ruth (Kimberly Quinn) เลขาฯ ของเขาที่นั่งอยู่ในห้องด้วย
ปัญหาใหญ่ของ Katherine ไม่ใช่ว่าเพื่อนร่วมงานในห้องเหยียดเธอด้วยสายตา หรือเธอต้องกินกาแฟคนละกากับคนอื่น หากแต่เธอต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำไกลข้ามตึกทุกครั้งที่เธออยากทำธุระ ช็อตที่เธอหมดความอดทนแล้วระเบิดความอัดอั้นออกมาคือหนึ่งในซีนที่ดีที่สุดของเรื่อง เพราะมันสะท้อนหมด ตั้งแต่สิทธิการใช้ห้องน้ำ สิทธิการใช้ facilities ต่าง ๆ ของพนักงาน รวมถึงทำให้เราได้รู้ว่าค่าแรงของคนผิวสีถูกกว่าคนผิวขาว